“เล่นกีฬา-ออกกำลังกาย” ต้องมีวันหยุด เช็กสัญญาณที่บ่งบอกให้พัก

การเล่นกีฬาและการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่วยให้เราฟิตหุ่น กระชับสัดส่วน หรือมีสุขภาพที่แข็งแรงทนทานได้ แต่รู้หรือไม่ว่าถ้าหักโหมมากเกินไป เป้าหมายที่เราตั้งใจทำเหล่านั้น จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย แถมยังส่งผลเสียทำให้เกิดปัญหาสุขภาพกายและใจได้อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้การเล่นกีฬาและการออกกำลังกายจึงต้องมีวันพัก แม้หลายคนที่เล่นกีฬาเป็นประจำจนกลายเป็นนิสัยจะไม่ค่อยชอบใจก็ตาม

เล่นกีฬาทำไมถึงทำให้เสพติด

เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายทีไร จะรู้สึกหัวสมองปลอดโปร่ง มีความสุข! นั่นเป็นเพราะว่าทุกครั้งที่ได้เล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสาร “เอ็นดอร์ฟินส์” ออกมา ช่วยคลายความเครียด ทำให้เราอารมณ์ดีขึ้น

คนจึงมักบอกว่าการออกกำลังกายเหมือนยาเสพติดชนิดหนึ่ง ซึ่งหากทำจนกลายเป็นกิจวัตรหรือเป็นนิสัยแล้ว ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายสักวันจะรู้สึกไม่ค่อยสดชื่นเท่าที่ควร

ด้วยเหตุนี้หลายคนที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเป็นประจำจึงไม่ค่อยอยากหยุดพัก เพราะนอกจากช่วยลดน้ำหนัก สร้างเสริมความแข็งแรงให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้โดยเร็วแล้ว ยังช่วยให้มีความสุขด้วย

ออกกำลังกาย ทำไมถึงต้องมีวันพัก

การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ที่จริงแล้วทำให้กล้ามเนื้อของเราบอบช้ำ ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายได้มีโอกาสฟื้นตัว จึงต้องมีวันหยุด เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ที่สำคัญพอร่างกายได้ฟื้นตัว การออกกำลังกายในครั้งต่อไปจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ฉะนั้นใครที่ไม่กล้าหยุดพัก เพราะกลัวว่าจะทำตามเป้าหมายได้ช้า ขอให้คลายความกังวลใจกันได้เลย เพราะการได้พักสักหน่อยกลับทำให้ได้ผลลัพธ์ดีขึ้นมากกว่าเดิม

โทษของการออกกำลังกายมากเกินไป

การเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายบ่อยหรือมากเกินไป ทำให้ร่างกายไม่มีเวลาพักฟื้นซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอเพียงพอ นอกจากความเหนื่อยล้าทั่วไปแล้ว ยังนำไปสู่อาการบาดเจ็บจากการใช้งานซ้ำ ๆ และประสิทธิภาพของร่างกายลดลงได้ เช่น กล้ามเนื้อขาตึง ประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวของข้อต่อบริเวณไหล่และสะโพกลดลง

โดยเฉพาะคนต้องการลดน้ำหนัก หลายคนมักคิดว่ายิ่งออกกำลังกายได้มากเท่าไรยิ่งดี แต่ที่จริงแล้วการกดดันตัวเองมากเกินไปอาจส่งผลย้อนกลับได้ เพราะความเครียดที่มากเกิน จะไปดึงความสามารถในการลดน้ำหนัก ย่อยอาหาร หรือการทำให้ระบบประสาทที่ช่วยทำให้ร่างกายสงบลงทำงานได้ไม่ดี

สัญญาณอันตราย “โหมออกกำลังกาย”

การโหมออกกำลังกาย แบ่งได้ 2 รูปแบบหลัก ๆ คือ หนึ่งการเล่นกีฬาบ่อยเกินไป และสองการเล่นที่หนักเกินกว่าร่างกายจะรับไหวในคราวเดียว

สัญญาณเตือนออกกำลังกายบ่อยเกิน

สำหรับสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า คุณกำลังออกกำลังกายติดต่อกันเกินไป และควรพิจารณาตารางการออกกำลังกายของคุณใหม่ ได้แก่

  • เหนื่อยล้า
  • บาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำเกินความสามารถของตัวเอง
  • ปวดกล้ามเนื้อเป็นเวลานาน เกินกว่า 2-3 วัน
  • นอนไม่หลับ
  • ไม่สนุกกับการออกกำลังกายมากนัก
  • ไม่เห็นผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ต้องการ
  • ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลง
  • ไขมันเพิ่มขึ้น
  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
  • ซึมเศร้า

สัญญาณเตือนออกกำลังกายหนักไป

ส่วนสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า คุณกำลังออกกำลังกายมากเกินกำลังของตัวเองแล้วในครั้งเดียว ได้แก่

  • หน้าซีด หายใจไม่คงที่
  • กระดูกผิดรูป ข้อเคลื่อนหลุด รู้สึกขยับกระดูกหรือข้อต่อแล้วผิดปกติ
  • ใจสั่น เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด
  • อ่อนแรง กล้ามเนื้อเป็นอัมพาต ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ปกติ หรือปวดเกร็ง
  • ปวดเรื้อรัง หรือมีอาการแย่ลง

วิธีออกกำลังกายที่ถูกต้อง

องค์การอนามัยโลก (WH0) กำหนดให้การออกกำลังกายที่เหมาะสมคือ สัปดาห์ละ 150 ชั่วโมง หรือ ครั้งละ 30 นาที จำนวน 5 ครั้งต่อสัปดาห์

สำหรับใครที่ออกกำลังกายมากเกิน ควรปรับลดให้พอเหมาะจะดีที่สุด อย่าปล่อยให้การออกกำลังกายที่ควรเสริมสร้างสุขภาพที่ดี กลายเป็นทำร้ายสุขภาพให้พังลงแทน

อย่างไรก็ตาม หากไม่อยากหยุดจริง ๆ แนะนำว่าอีก 2 วันที่เหลือในสัปดาห์ ควรจะทำกิจกรรมที่เบาที่สุด หรือกิจกรรมเพื่อความผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เช่น การเดินเล่นรอบสวนสาธารณะ 20 นาที หรือกลิ้ง Foam Roller เพื่อผ่อนคลายร่างกายเบา ๆ

ยิ่งออกกำลังกาย ยิ่งต้องตรวจสุขภาพ

ออกกำลังกายบ่อย ดูแข็งแรงก็จริง แต่ใช่ว่าจะไม่จำเป็นต้อง “ตรวจสุขภาพ” เพราะการออกกำลังกายเป็นประจำ ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนา เสี่ยงหัวใจวายเฉียบพลันได้ หรือแม้แต่กระทั่งค่าตับ ค่าไต ก็อาจพุ่งสูงได้โดยไม่รู้ตัว มากกว่านั้นยิ่งไม่ได้วอร์มอัพก่อนด้วยแล้ว ยิ่งเสี่ยงโรคข้อเสื่อมอีก

ดังนั้นเมื่อวางแผนออกกำลังกายกันแล้ว อย่าลืมวางแผนตรวจสุขภาพกันด้วย สุขภาพที่ดีจะได้อยู่คู่กับเราไปอีกนาน

ที่มา : www.pptvhd36.com/health

ติดตามเรา

spot_img

Related Articles