ทำไม? “อดอาหาร” แล้วยังลดน้ำหนักไม่สำเร็จ

สิ่งแรกที่ทุกคนคิดถึงเมื่อเราต้องลดน้ำหนัก คือการ “อดอาหาร” ไม่ว่าจะเป็นการอดอาหารที่มีไขมันสูง อดข้าวเย็น หรืออดเครื่องดื่มต่างๆ แต่การอดอาหารอาจไม่ได้เป็นหนทางที่ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างที่หลายๆ คนคิด เพราะนอกจากการอดอาหารอาจไม่ได้ช่วยให้ลดน้ำหนักได้แล้ว อาจส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างที่คุณไม่เคยรู้เลยก็ได้

ทำไม? “อดอาหาร” แล้วยังลดน้ำหนักไม่สำเร็จ

หากคุณเลือกที่จะอดอาหาร เช่น อดมื้อเย็นทั้งมื้อ หรืออาจจะทานแค่มื้อเดียวไปตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังอาจเลือกที่จะอดอาหารบางอย่าง เช่น อดแป้ง อดน้ำตาล อดไขมัน (โดยสิ้นเชิง) อาจเพิ่มความเสี่ยงให้กับร่างกายที่จะขาดสารอาหาร การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายแปรปรวน ระบบเผาผลาญทำงานแย่ลง โดยอาจเห็นผลว่าน้ำหนักลดลงในระยะเวลาหนึ่ง แต่เมื่อเรากลับมาทานอาหารเหมือนเดิมอีกครั้ง ระบบเผาผลาญพลังงานที่เคยคุ้นชินกับอาหารจำนวนน้อยๆ ก็จะเริ่มไม่สามารถเผาผลาญพลังงานจากอาหารจำนวนเท่าเดิมที่เคยทานเป็นปกติได้ ดังนั้นจึงทำให้น้ำหนักดีดกลับมาขึ้นสูงเหมือนเดิม (หรือมากกว่าเดิม) หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า “โยโย่เอฟเฟกต์” ได้

นอกจากจะลดน้ำหนักไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว การอดอาหารยังส่งผลเสียต่อร่างกายอีกมากมาย

ผลเสียจากการ “อดอาหาร”

1.ร่างกายขาดสารอาหาร

แม้ว่าการขาดสารอาหารในปัจจุบันดูจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เพราะอาหารไทยที่เราทานมักจะมีสารอาหารที่ค่อนข้างหลากหลาย แต่หากคุณเลือกที่จะอดอาหารบางอย่างไปโดยสิ้นเชิง คุณอาจเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารบางอย่างที่ทำให้เราไม่ได้รับสารอาหาร 5 หมู่อย่างที่เราควรจะได้รับ

  • ขาดโปรตีน > กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผม เล็บผิวหนังไม่แข็งแรง เหี่ยวย่น ไม่เปล่งปลั่ง รวมไปถึงเม็ดเลือด กระดูก และภูมิต้านโรคก็จะลดลงด้วยขาดคาร์โบไฮเดรต > ไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนเพลีย ขาดพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ และส่วนใหญ่สารอาหารนี้จะหมดไปเป็นวันๆ ดังนั้นต้องทานให้เพียงพอต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ภายใน 1 วันด้วย
  • ขาดไขมัน > ร่างกายไม่สามารถนำวิตามินบางส่วนมาใช้ได้ เพราะวิตามินบางส่วนจะต้องมีไขมันเป็นตัวละลาย เช่น วิตามินเอ ดี อี เค
  • ขาดวิตามิน > ภูมิต้านทานโรคแย่ลง ท้องผูกบ่อย เสี่ยงโรคกระดูกพรุน สายตาผิดปกติ
  • ขาดเกลือแร่ > ภูมิต้านทานโรคต่ำ ท้องผูก กล้ามเนื้ออ่อนแรง ระบบประสาททำงานผิดปกติ

2.ระบบเผาผลาญพัง

เมื่อร่างกายคุ้นชินกับการอดอาหาร อาจทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานในร่างกายต่อวันได้น้อยลงตามไปด้วย ดังนั้นหากวันใดที่เรากลับมาทานอาหารเท่าเดิม จึงน้ำหนักดีดตัวขึ้นสูงเพราะร่างกายไม่ได้เผาผลาญพลังงานเท่าเดิมก่อนอดอาหาร จึงเป็นเหตุให้หลายคนที่เลือกอดอาหารเพื่อการลดน้ำหนักต้องช้ำใจกับการน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเท่าเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมได้

3.เสี่ยงโรค

เมื่อร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่ควรจะได้ไปสักระยะหนึ่ง ร่างกายก็จะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ภูมิต้านทานโรคก็จะต่ำไปด้วย จึงเป็นเหตุให้ร่างกายไม่สามารถปกป้องตัวเอง หรือต่อสู้กับเชื้อไวรัสที่อยู่รายล้อมรอบตัวได้ จึงเป็นให้เรามีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคบ่อยๆ ตั้งแต่โรคเล็กๆ น้อยๆ อย่างไข้หวัดธรรมดา ไปจนถึงโรคติดต่อที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสต่างๆ

4.สุขภาพจิตแย่

การอดอาหารไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ เพราะเราต้องต่อสู้กับความหิวอย่างรุนแรง เมื่อสิ่งที่อยากกินก็ไม่ได้กิน น้ำหนักก็อาจจะไม่ได้ลดลงมากอย่างที่ใจต้องการ ความเครียดสะสมก็เกิดขึ้น คุณอาจกลายร่างเป็นคนขี้หงุดหงิด โมโหง่าย สมาธิสั้น จนกระทบกับชีวิตส่วนตัว หน้าที่การงาน คนรอบข้าง ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันต่างๆ ได้

ลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ผล

หากอยากลดน้ำหนักอย่างได้ผล อย่าลืมว่าเราต้องไม่ “อด” แต่เราแค่ “ลด” อาหารที่เราทานมากเกินไป นั่นคือคาร์โบไฮเดรตที่เป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ลดการทานแป้ง และน้ำตาลที่เกินความจำเป็นของร่างกายใน 1 วัน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย และหัวใจด้วยการออกกำลังกาย ปิดท้ายด้วยการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป และมีวินัยกับตัวเอง ไม่หลงกินจุบจิบ ไม่กินอาหารมากจนพลังงานเหลือจนไปสะสมเป็นชั้นไขมันใต้ผิวหนังอีก รับรองว่าลดน้ำหนักอย่างได้ผล และไม่เสียสุขภาพแน่นอน

ที่มา : sanook.com/health

ติดตามเรา

spot_img

Related Articles