สาวๆ สายเฮลตี้ที่ชอบ “ออกกำลังกาย” เคยสังเกตไหมคะว่าการเล่น “โยคะ” กับการเล่น “พิลาทิส” มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่จริงๆ แล้ว มันมีความแตกต่างกันที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้
วันนี้เราจะพาสาวๆ ไปรู้จักการออกกำลังกายด้วยการเล่น “พิลาทิส” ให้มากขึ้น ว่าควรเล่นอย่างไรจึงจะถูกต้อง และมีท่าพิลาทิสแนะนำสำหรับคนที่อยาก “ลดพุง” มาฝากด้วยค่ะ อย่ารอช้า ตามมาดูกันเลย
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/02/1663665651405-pilates-2-1024x683.jpg)
อยากแข็งแรงต้องเล่น “พิลาทิส”
พิลาทิส (Pilates) คือ หนึ่งในการออกกำลังกายที่มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งในแง่ของการเสริมสร้างความแข็งแรงแกนกลางลำตัว ด้านการผ่อนคลายจิตใจ ช่วยแก้อาการหลังแอ่น หลังค่อม และยังสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย หรือแม้แต่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์
นอกจากนี้ “พิลาทิส” ยังช่วยให้ผู้ออกกำลังกายมีบุคลิกภาพ และการเคลื่อนไหวที่สง่างามไปพร้อมๆ กับการมีสมดุลของร่างกายที่ดี และยังเป็นการออกกำลังกายที่มีความปลอดภัย เกิดการกระทบกระเทือนของร่างกายน้อยกว่าการออกกำลังกายแบบอื่นๆ การเคลื่อนไหวท่าทางต่างๆ ก็เน้นความนุ่มนวล และต่อเนื่องอย่างเป็นธรรมชาติ
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/02/KCP_4550R.jpg)
พิลาทิส VS โยคะ
“พิลาทิส” และ “โยคะ” มีความแตกต่างกันตรงที่ “โยคะ” เป็นการออกกำลังกายที่ใช้เพียงเสื่อโยคะ ขณะที่ “พิลาทิส” จะเป็นการออกกำลังกายที่ใช้ทั้งเสื่อและอุปกรณ์พิเศษเพื่อการเล่นพิลาทิสโดยเฉพาะ และยังมีความแตกต่างกันในมุมอื่นๆ อีก คือ
- ต้นกำเนิดต่างกัน
Pilates : เริ่มมีในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย Joseph Pilates มุ่งไปที่แกนกลางลำตัว รักษาสมดุลให้กระดูกสันหลัง
Yoga : เป็นศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มากกว่า 5,000 ปี มีต้นกำเนิดที่ประเทศอินเดีย เน้นฝึกจิตใจ คลายเครียด
- ความซับซ้อนต่างกัน
Pilates : เป็นระบบที่ซับซ้อน จะเน้นไปที่การทำท่าออกกำลังกายให้ถูกต้องตามหลักกายวิภาค
Yoga : ปรับสมดุลชีวิตและจิตใจ มากกว่าแค่การออกกำลังกาย
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/02/dFQROr7oWzulq5Fa4V38thEbTP3XO5mNaz3kRpVVWqcDS2BZpXs3Ju1XNAil5gardTs-1024x576.webp)
- เน้นจุดต่างกัน
Pilates : เน้นไปที่การสร้างกล้ามเนื้อ ความแข็งแรงแกนกลาง และเสริมด้วยความยืดหยุ่น
Yoga : เน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อ
- วิธีหายใจต่างกัน
Pilates : หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางปาก
Yoga : หายใจเข้าทางจมูก และหายใจออกทางจมูก
- อุปกรณ์ต่างกัน
Pilates : ฝึกได้ทั้งบนเสื่อ บนเครื่องอุปกรณ์ บนผืนผ้า (เครื่องพิลาทีสจะช่วยให้เห็นกล้ามเนื้อชัดเจนขึ้น)
Yoga : ส่วนมากจะเล่นบนเสื่อโยคะเท่านั้น
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/02/dFQROr7oWzulq5Fa5K318rpUt408X9zBBklhIpkGreoTLsNiliaP04Iu6sN7SgT6QX1-1024x576.webp)
พิลาทิส 3 ประเภท
1.พิลาทิสบนเสื่อ : เป็นท่าออกกำลังกายคล้ายโยคะ แต่เน้นท่าที่บริหารแกนกลางลำตัวและหน้าท้อง ฝึกเล่นเองได้ง่าย
2.พิลาทิสรีฟอร์มเมอร์ : เล่นกับอุปกรณ์สำหรับพิลาทิสโดยเฉพาะ เช่น เครื่องรีฟอร์มเมอร์ (Reformer), คาดิลแลค (Cadillac), เก้าอี้วุนดา (Wunda Chair) โดยอุปกรณ์จะใช้ในการดึงและยืด เพื่อต้านแรงโน้มถ่วงหรือให้ร่างกายได้ออกแรงตามแรงโน้มถ่วง ส่วนใหญ่ต้องไปเล่นที่ฟิตเนส
3.พิลาทิสฟลาย (Pilates fly) : เล่นกับอุปกรณ์ผืนผ้าที่ห้อยจากที่สูง โดยใช้ผ้าเป็นตัวยึดในการทำท่าต่างๆ เป็นการนำศาสตร์ของโยคะ พิลาทิส และยิมนาสติก ผสมผสานเข้าด้วยกัน ส่วนใหญ่ต้องไปฝึกเล่นที่ฟิตเนส
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/02/zone11_banner1_1-1024x683.webp)
ประโยชน์ของ “พิลาทิส”
1.ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพ
เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มสมดุลของร่างกาย การทรงตัว และการเคลื่อนไหวของข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย ช่วยแก้อาการหลังแอ่น หลังค่อม หรือไหล่ห่อ จึงช่วยพัฒนาบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้ด้วย
2.ช่วยลดน้ำหนัก
การออกกำลังกายด้วย “พิลาทิส” อาจไม่ช่วยลดน้ำหนักได้โดยตรง แต่ช่วยได้ในทางอ้อม นั่นคือ จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เพิ่มมัดกล้ามเนื้อ พอมีกล้ามเนื้อมากขึ้นก็จะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดีขึ้นตามไปด้วย จึงมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักได้ดี หากต้องการลดน้ำหนักให้เห็นผลชัดเจน ก็ควรเล่นพิลาทิสควบคู่กับการควบคุมอาหารไปด้วย
3.ป้องกันการบาดเจ็บ
การเล่นพิลาทิสเป็นประจำ จะช่วยยืดหยุ่นส่วนต่างๆ และลดความตึงเกร็งของกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา หรือการเต้น
4.บรรเทาอาการปวดหลัง
เนื่องจากการเล่นพิลาทิส เน้นท่าทางการออกกำลังเกี่ยวกับแกนกลางลำตัว ช่วงไหล่ บ่า หลัง เอว หน้าท้อง การบริหารด้วยท่าเหล่านี้บ่อยๆ จึงช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง และแก้อาการออฟฟิศซินโดรมได้ด้วย
5.แก้โรคข้ออักเสบ
การเล่นพิลาทิสมีประโยชน์กับผู้ที่ปัญหาสุขภาพอย่าง เช่น โรคข้ออักเสบ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อาการบาดเจ็บที่ข้อต่อ เพราะการเล่นพิลาทิสจะช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ จึงช่วยบรรเทาอาการต่างๆ เหล่านี้ได้ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และควรเล่นโดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่เสมอ
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/02/dFQROr7oWzulq5FZYAYp37GpKlK9aA0IzTWfWkTLPSGihPmFnfuZBnNiXaO2ryycVg4-1024x576.webp)
3 ท่า “พิลาทิส” ลดพุง
- ท่าควงขา (Corkscrew)
วิธีฝึก คือ เริ่มจากนอนราบกับเสื่อออกกำลังกาย แขนทั้งสองข้างวางแนบลำตัว ยกขาเหยียดตรงทำมุม 90 องศา เกร็งหน้าท้อง จากนั้นค่อยๆ หมุนขาไปด้านซ้าย วนเป็นวงกลมมาทางด้านขวา แล้วมาจบที่ท่าเริ่มต้น จากนั้นให้ทำสลับทิศทางกัน เริ่มหมุนขาจากทางด้านขวา หมุนวนมาด้านซ้าย แล้วจบที่ท่าเริ่มต้นอีกครั้ง ทำต่อเนื่อง 8-10 ครั้ง (ใช้ห่วงมาวางระหว่างขาหรือไม่ใช้ก็ได้)
- ท่ายืดเหยียดขา (Double Leg Stretch)
วิธีฝึก คือ เริ่มต้นด้วยท่านอนราบกับเสื่อออกกำลังกาย ชันเข่าขึ้นมา แล้วดึงเข่าทั้งสองข้างเข้ามาหาอก เอื้อมมือมาแตะที่เข่าไว้ พร้อมกับยกศีรษะขึ้นมาเสมอเข่า จากนั้นปล่อยมือจากเข่า แล้ววาดขึ้นไปเหนือศีรษะ ให้แขนแนบหูไว้ พร้อมกับเหยียดขาขึ้นทำมุม 45 องศา (คล้ายทำท่าตัว V) จากนั้นลดขามาในท่าชันเข่า พร้อมวาดมือเป็นวงกลมมาจับที่ขาไว้เหมือนท่าเริ่มต้น ทำต่อเนื่อง 8-10 ครั้ง
- ท่าสะพานโค้ง (Shoulder Bridge)
วิธีฝึก คือ นอนหงายราบไปกับเสื่อออกกำลังกาย ชันเข่าขึ้นมา แขนทั้งสองข้างแนบไว้กับลำตัว จากนั้นยกลำตัวขึ้น โดยที่แขนและหัวไหล่ยังแนบกับพื้น แล้วเกร็งหน้าท้องไว้สักครู่ แล้วค่อยๆ วางลำตัวกลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำต่อเนื่อง 8-10 ครั้ง
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/02/b8e0b4b8e0b2b8e0b4b8aa.jpg)
ที่มา :thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty