9 พฤติกรรม ยับยั้ง ‘ความอยากอาหาร’ สำหรับคนที่ ‘ลดความอ้วน’

กินกระหน่ำเพราะห้ามปากตัวเองไม่ได้สักที ทำแบบนี้สิ ผอมเห็นๆ

1.ดื่มน้ำให้มากขึ้น

การดื่มน้ำให้เธอรู้สึก “ อิ่ม ” มากขึ้น อาจจะไม่รู้สึกหนักท้องเหมือนกินอาหาร แต่ช่วยทำให้เธอไม่อยากกินอะไรไปอีกพอสมควรเลยแหละมีการศึกษาค้นพบว่าถ้าดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยลดความอยากอาหารได้!มีงานวิจัยหนึ่งเผยว่า คนที่ดื่มน้ำ 7 แก้ว/วัน จะกินอาหารน้อยลงถึง 200 แคลอรี่เทียบกับคนที่ไม่ค่อยดื่มน้ำงานวิจัยอีกฉบับยังอ้างว่าผู้ใหญ่ที่ดื่มน้ำ 2 แก้ว/วันก่อนมื้ออาหาร จะกินน้อยลงประมาณ 75-90 แคลอรี่เลยนะ

มาดื่มน้ำกันเถอะ นอกจากจะอิ่มท้อง ผิวพรรณยังสดใสไม่แห้งกร้านอีกด้วย

2.เพิ่มรสชาติให้น้ำเปล่า

สาวๆ บางคนก็เป็นแฟนพันธุ์แท้ของน้ำหวาน น้ำเชื่อม กาแฟใส่ครีมทั้งหลาย จะให้ดื่มน้ำเปล่าจืดชืดไร้รสชาติงั้นเหรอ ไม่มีทางซะล่ะ!เรามีวิธีทำให้น้ำเปล่ามีรสชาติขึ้นได้ง่ายๆ ด้วยการเติมมะนาวหั่นเสี้ยว เนื้อส้ม ใบมิ้นท์สด ขิงขูด แตงกวาหั่นเสี้ยวหรือผลไม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยผสมลงไป

เพียงล้างขวดน้ำขวดใหญ่ให้สะอาด ใส่ผลไม้ที่ต้องการแล้วเทน้ำลงไป เธอจะได้น้ำหมักผลไม้ ( Infused Water ) แบบโฮมเมดแล้วทำง่าย ดื่มอร่อยด้วย

3.นอนหลับให้เต็มอิ่ม

การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เธอรู้สึกหิวมากขึ้นกว่าปกติ!เธออาจไม่ได้กินอาหารมื้อหลักมากขึ้น แต่เธอจะมีอาการ “ โหย ” อาหารจั๊งค์ฟู้ดที่มีน้ำตาลและไขมันสูงปรื๊ดแทนมีการศึกษาค้นพบว่าการนอนน้อยทำให้กินมากขึ้น ส่งผลให้อ้วนขึ้น ในทางกลับกัน ถ้านอนหลับเต็มอิ่มจะทำให้เธอกินแป้งและไขมันน้อยลง ส่งผลให้ผอมลง!

ถ้าเธอนอนน้อยต่อเนื่องเป็นประจำ จะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพหลายอย่างเช่น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ , โรคซึมเศร้าและโรคหัวใจถ้าเธออยากกินอะไรเล็กน้อยก่อนนอน แนะนำให้กินอาหารที่ช่วยทำให้หลับง่ายอย่างเชอร์รี่ กล้วย นม ข้าวหอมมะลิหรือซีเรียลค่ะ

4.ออกกำลังกายด้วยวิธีที่สนุกสนาน

สาวๆ บางคนออกกำลังกายตามกระแส ไม่ได้ชอบกีฬานั้นจริงๆ จึงมีความคิดว่า ถ้าออกกำลังเสร็จแล้วก็ขอให้รางวัลตัวเองหน่อยสิ ซึ่งรางวัลนั้นก็คือการกิน!การออกกำลังกายทุกประเภทช่วยเผาผลาญพลังงานได้ทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าเธอกินมากกว่าที่เผาผลาญไป ทุกอย่างก็ไร้ผล!อย่าใช้เหตุผลว่าเธออดทนวิ่งสองชั่วโมงเพื่อแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโต เพราะมันฟังไม่ขึ้น!

ถ้าเธอไม่ชอบการวิ่ง กระโดดเชือก ลองหาวิธีสนุกๆ ทำเพลินๆ เหมือนไม่ได้ออกกำลังกายสิเช่น วอลเลย์บอลชายหาด ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก เดินเล่นตามสวนสาธารณะชมนกชมไม้ ฟังเพลงจากโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ เผลอแป๊บเดียวก็ครบชั่วโมง เผาผลาญไปได้หลายแคลอรี่แล้วนะเออ!

5.กินครบทุกมื้อ

บางคนก็แค่อยากกินเมื่อหิว เพราะมีตารางชีวิตไม่แน่นอน บางคนมีอาชีพที่กินนอนไม่เป็นเวลาเท่าไหร่ ไม่อยากตีกรอบตัวเองว่าต้องกินทุกมื้อ เช้า สาย บ่าย เย็น แต่เธอต้องทำถ้าไม่อยากอ้วน!ร่างกายต้องการสารอาหารเป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอถ้าเธออดมื้อกินมื้อจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ขาดพลังงาน และทำให้กินแหลกในมื้อถัดไปจนอ้วนขึ้นได้!

อย่าลืมอาหารมื้อเช้าเป็นอันขาด เพราะมื้อเช้าเหมือนเชื้อเพลิงที่จุดไฟเตาเผาผลาญในร่างกายให้ลุกโชนเธอควรกินมื้อเช้าภายในหนึ่งชั่วโมงหลังตื่นนอนกินแค่นิดหน่อยก็ยังดี เช่น ผลไม้สักชิ้นหรือไข่สักฟองพยายามกินเว้นระยะทุก 3-4 ชั่วโมง นั่นคือเช้า เที่ยง เย็น และของว่างเล็กน้อยก่อนนอนค่ะ

6.เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์

“ อาหารที่มีประโยชน์ ” เป็นคำที่ค่อนข้างกว้าง สาวๆ หลายคนอาจไม่รู้ว่าแล้วที่มีประโยชน์เนี่ย มันคืออะไรล่ะต้องไปหาเทรนเนอร์ตามฟิตเนสหรือนักโภชนาการให้ช่วยกำหนดอาหารให้ไหม

ใจเย็นค่ะ ไม่จำเป็นถึงขนาดนั้น ( ถ้าเธอไม่ใช่สายเล่นกล้ามที่เคร่งมากๆ น่ะนะ ) เธอยังจำวิชาสุขศึกษาที่เรียนตอนประถม-มัธยมได้ไหม กินอาหารให้ครบ 5 หมู่นั่นแหละไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อนกินโปรตีนอย่างเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ผักผลไม้สดๆ แป้งที่มีประโยชน์ เช่น ขนมปังโฮลวีต และไขมันดีเช่น อโวคาโดและถั่วอัลมอนด์พยายามกินให้หลากหลายและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเมื่ออิ่มท้องพอดีก็จะไม่โหยอาหารเพิ่ม และไม่เกิดอาการ binge eating disorder หรืออาการ “ โซ้ยแหลก ” แน่นอนค่ะ

7.อย่ากินเมื่อกำลังโกรธ เครียด หรือเศร้า

คนส่วนใหญ่มักกินอาหารเมื่ออารมณ์ดี เช่น มีความรัก สนุกสนาน ร่าเริงแจ่มใส แต่เธอไม่ควรกินเมื่ออารมณ์เสีย เพราะเธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แถมจะติดเป็นนิสัยอีกด้วย!เมื่อเธอรู้สึกเศร้า รู้สึกผิด หรือวิตกกังวลในเรื่องต่างๆ เธอจะอยากกินอาหารนุ่มๆ อร่อยๆ ซึ่งมักจะหวาน มัน ไขมันเยอะอย่างเค้กหรือคุกกี้สาเหตุที่แย่ที่สุดคือกินเพราะเบื่อ!เพราะเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นง่ายที่สุด นั่นหมายถึงเธอจะกินบ่อยตามไปด้วย ถ้าเธอเบื่อทั้งวัน ไม่นานคงกลายเป็นกะละมัง!

ถ้าเธอเบื่อล่ะก็ ทำอะไรที่สดชื่น กระปรี้กระเปร่าสิ! ทำอะไรเพลินๆ เบี่ยงเบนความสนใจให้ลืมความหิวไปซะเช่น เล่นเกม ถักนิตติ้ง ทำงานบ้าน เล่นกีฬา เขียนไดอารี่รู้ตัวอีกทีก็สบายใจขึ้นแล้ว ไม่ต้องรู้สึกผิดทีหลังด้วยนะ

8.รับมือกับความเครียดให้ได้

เธอเคยได้ยินไหมว่า“ ขนมหวานกับความเครียดเป็นของคู่กัน ”เพราะน้ำตาลในขนมช่วยทำให้อารมณ์เครียดผ่อนคลายมากขึ้น( แต่หลายครั้งก็เลยจุดนั้นไปนานแล้ว กินเพื่อสนองความอยากตัวเองมากกว่า )เราหลีกเลี่ยงขนมหวานได้ แต่เราหลีกหนีความเครียดไม่ได้!ถ้าเธอเป็นคนประเภทที่ “ เครียดแล้วต้องกิน ” ล่ะก็ การออกกำลังกายเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยปลดปล่อยความเครียดได้ดีเช่น การวิ่ง ชกมวย การต่อยกระสอบทรายสักอั้กสองอั้กช่วยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นนะ

อย่าเลือกวิธีเก็บ กลั้นความเครียดไว้ในใจ เพราะจะทำให้เครียดสะสม เมื่ออัดอั้นมากๆ อาจเสียสติได้!ความเครียดจะไม่หายไปไหนถ้าเธอไม่ระบายมันออกมา แต่ควรเป็นวิธีที่ปลอดภัยและไม่เดือดร้อนคนอื่นนะคะ!อย่าต่อยคนอื่นระบายความเครียดนะเฮ้ย ไปสถานีตำรวจมันไม่คุ้ม!

9.อย่าฟุ้งซ่าน เอาแต่คิดถึงเรื่องกินตลอดเวลา

สาวๆ บางคนก็เป็นพวก“ ห้ามปากตัวเองไม่ได้ ”ต้องกินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะอิ่ม เหมือนสมองตั้งโปรแกรมมาว่าถ้านั่งดูทีวีปุ๊บ ต้องคว้าถุงมันฝรั่งทอดกรอบมาเคี้ยวหงับๆ ทันที!มีหลายวิธีที่ทำให้จิตใจไม่ฟุ้งซ่าน เอาแต่คิดถึงเรื่องกินนะจ๊ะเธอ!ออกไปเล่นข้างนอกบ้าง ช้อปปิ้งกับเพื่อนบ้าง อ่านหนังสือ เย็บปักถักร้อย นั่งสมาธิหรือทำอะไรก็ได้ที่ใช้พลังงาน แต่ไม่รับแคลอรี่เข้าร่างกาย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าตึงกับตัวเองมากไปล่ะ หยิบช็อกโกแลตมากัดสักคำก็ได้ ถ้ามันทำให้เธอมีความสุข!( แต่อย่าต่อจนหมดทั้งแท่งนะเฮ้ย!!! )

ที่มา : sistacafe.com

ติดตามเรา

spot_img

Related Articles