ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพผู้หญิง เมื่อวัยเข้า 30 ปี เพราะอายุมากขึ้น ร่างกายย่อมเปลี่ยนแปลงมากขึ้นตามไปด้วย พร้อมวิธีดูแลตัวเอง เช็กลิสต์โปรแกรมตรวจสุขภาพที่น่าสนใจ เปลี่ยนแปลงแค่ไหนก็รับมือได้
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน โดยเฉพาะ ความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพผู้หญิง เมื่อวัยเข้า 30 เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน อายุมากขึ้น ภาระหน้าที่ย่อมมากขึ้นตามไปด้วย ผลที่ตามมาคือความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี ยิ่งต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะปัญหาด้านสุขภาพ ความเสื่อมถอยภายในร่างกายตามกาลเวลา
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/5-vitamins-for-salaryman-image-detail-01.jpg)
ความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายของผู้หญิง เมื่ออายุเข้าเลข 30 ส่งผลต่อสุขภาพ
1.สุขภาพร่างกายเจ็บป่วยง่ายขึ้น
อายุมากขึ้น แต่ภูมิคุ้มกันร่างกายกลับลดลง ผู้หญิงในวัยนี้ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไขมันในเลือดสูง รวมถึงโรคต่าง ๆ ประจำฤดูกาลที่อาจปะปนมาในอากาศและมลภาวะ นอกจากนี้ต้องระวังเรื่องโรคที่เกิดขึ้นกับผู้หญิง เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก โรคซีสต์ในรังไข่ ผู้หญิงวัย 30 ขึ้นไป ควรหมั่นเช็กสุขภาพ เพื่อวางแผนการรักษาได้ทันท่วงทีกรณีที่ตรวจพบโรคร้าย
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/599-1-1024x585-1.jpg)
2.อัตราการเผาผลาญเริ่มน้อยลง
ตอนสาว ๆ รับประทานเท่าไรก็ไม่อ้วน ตอนอายุมากขึ้นรับประทานสลัดยังน้ำหนักขึ้น เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ทำให้ร่างกายเบิร์นไขมันและน้ำตาลได้ยากขึ้น ส่งผลให้อ้วนง่ายขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าคุณจะรับประทานอาหารเท่าเดิมก็ตาม
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/1274_3-1024x536.jpg)
3.อารมณ์อ่อนไหวกว่าเดิม
ช่วงวัยทำงานมีเรื่องให้วุ่นวายใจเยอะแยะมากมายแล้ว การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนยังทำให้อารมณ์อ่อนไหวง่ายขึ้นไปอีก อารมณ์ไม่คงที่ เหวี่ยงวีนง่าย ขี้น้อยใจ อีกทั้งยังกระวนกระวาย จนส่งผลกระทบต่อการนอนหลับ เพราะนอนหลับได้ยากขึ้น ระบบความจำเริ่มมีปัญหาตามมาอีก
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/Cover-33.webp)
4.เส้นผมเริ่มหลุดร่วง
แม้ว่าเส้นผมจะเริ่มหลุดร่วงตั้งแต่วัยสาว แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุประมาณ 30 ปี วงจรชีวิตเส้นผมจะเริ่มสั้นลง ผมร่วงถี่ขึ้น และไม่สามารถสร้างผมเส้นใหม่ได้ทัน ทำให้เส้นผมดูบางลง รวมถึงฮอร์โมนเอสโทรเจน (Estrogen) น้อยลง ทำให้เส้นผมมีขนาดเล็กลง แห้ง ชี้ฟู อ่อนแอ และหลุดร่วงได้ง่าย นอกจากนี้ความเครียดจากชีวิตประจำวันในวัยทำงานและการรับประทาน ยังเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ผมร่วงง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย
5.ฮอร์โมนทางเพศลดลง
วัยเข้า 30 คุณผู้หญิงบางท่านอาจเริ่มแต่งงานมีครอบครัว แต่หากยังไม่มีลูกจะเริ่มเป็นปัญหา เพราะเพราะฮอร์โมนทางเพศเริ่มลดลง ในบางท่านอาจไม่มีความต้องการ ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์กับคนรัก รวมถึงรังไข่ไม่แข็งแรง ส่งผลให้การตั้งครรภ์เป็นไปได้ยากขึ้น
6.ฮอร์โมนความวัยเยาว์น้อยลง
ไม่เพียงแต่ฮอร์โมนทางเพศเท่านั้น ฮอร์โมนแห่งการเจริญเติบโตอย่าง โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ที่มีความสำคัญยังผลิตน้อยลง ส่งผลต่อระบบเผาผลาญ ความยืดหยุ่นของผิว และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายคุณเสื่อมลง เพราะเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป โกรทฮอร์โมนจะเหลือเพียง 40% เท่านั้น เมื่อเทียบกับอายุช่วงวัยรุ่น
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/Edit-vision-e1570120848153.jpg)
7.สายตายาวเริ่มเข้ามาเยือน
อายุน้อยสายตาสั้น พออายุ 30 สายตายาวเริ่มเข้ามาแทน แต่บางท่านอาจประสบปัญหาสายตายาวและสายตาสั้นไปพร้อม ๆ กัน นอกจากปัญหาสายตาจะเกิดขึ้นจากอายุที่มากขึ้นแล้ว กิจวัตรประจำวันที่ใช้ชีวิตอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และจอโทรศัพท์ ยังส่งผลให้เกิดปัญหาสายตาในระยะยาวอีกด้วย
8.มวลกระดูกเริ่มบางลง
หลายท่านอาจคิดว่า มวลกระดูกลดลงจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเท่านั้น แต่ผู้หญิงที่อายุเข้า 30 ปี มวลกระดูกก็ลดลงได้เช่นกัน เพราะการสะสมแคลเซียมในกระดูกจะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งเข้าสู่วัยทอง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแล ไม่รับประทานอาหารที่เสริมความแข็งแรงของกระดูกและฟัน อาจเกิดโรคกระดูกพรุนตามมาได้
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/teeth.jpg)
9.ปัญหาช่องปาก
ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสุขภาพยังไม่จบลงเท่านี้ เพราะปัญหาช่องปากก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงอายุ 30 ปี เพราะร่างกายจะผลิตน้ำลายได้น้อยลง เคลือบฟันบางลง อีกทั้งฟันเริ่มห่างขึ้น ทำให้เศษอาหารไปติดตามซอกฟันได้ง่ายยิ่งกว่าเดิม ส่งผลให้ฟันผุง่าย เกิดปัญหาโรคเหงือกตามมา หากไม่รักษาอย่างถูกวิธี อาจสูญเสียฟันก่อนวัยอันควรได้
10.ความอ่อนเยาว์ของใบหน้าลดลง
สิ่งที่ผู้หญิงวัย 30 ปี ต้องประสบพบเจอคือ รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า เมื่ออายุมากขึ้นริ้วรอยจะยิ่งชัดขึ้น เริ่มจากหน้าผาก รอบดวงตา มุมปาก สารพัดจุดทั่วใบหน้า รวมถึงความหมองคล้ำที่เกิดจากฝุ่นละอองและมลภาวะ หากคุณผู้หญิงท่านใดไม่นิยมใช้สกินแคร์ หรือทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้งก่อนออกแดด ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดริ้วรอยและตีนกามากขึ้นไปอีก
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/istock-850141658-1024x683.jpg)
วิธีรับมือปัญหาสุขภาพและการดูแลตัวเอง
1.รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และครบทุกมื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารแบบครบถ้วน ทั้งวิตามิน เกลือแร่ โปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต
2.รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพราะผักผลไม้มีวิตามินและเกลือแร่ ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ช่วยปรับสมดุลเอนไซม์และฮอร์โมนในร่างกาย ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรง
3.หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด และอาหารที่มีรสหวาน มัน เค็ม รวมถึงอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด อาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป อาหารแช่แข็ง เนื่องจากมีโซเดียมและไขมันสูง ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา
4.พักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้เต็มอิ่ม อย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง และนอนก่อน 4 ทุ่มจะดีที่สุด เนื่องจากจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/istock-1282470707.jpg)
5.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 3 – 4 วันต่อสัปดาห์ วันละ 30 – 60 นาที อาจเลือกออกกำลังกายแบบเบา ๆ เช่น คาร์ดิโอ เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ช่วยกระชับสัดส่วน เสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงให้หัวใจ
6.ควบคุมความเครียด อย่าวิตกกังวลจนมากเกินไป อาจหลีกเลี่ยงการทำงานหนักต่อเนื่อง หรือทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเครียด พยายามหาวันหยุดเพื่อพักผ่อน และให้สมองได้หยุดพักบ้าง
7.อายุมากขึ้น ผิวหน้าย่อมมีริ้วรอย เหี่ยวเฉา และหมองคล้ำเป็นเรื่องปกติ แต่เราสามารถเลือกใช้ครีมหรือสกินแคร์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวหน้าสดใส ดูอ่อนกว่าวัย เช่น ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดเสมอ เลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับสภาพผิว หรือใช้วิตามินซี เพื่อลดเลือนจุดด่างดำ ปรับผิวให้กระจ่างใส เป็นต้น
![](https://www.thailandfitness.com/wp-content/uploads/2024/04/HH_12.jpg)
ควรตรวจสุขภาพอะไรบ้าง
เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัย 30 ปี ร่างกายย่อมเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีเพื่อตรวจเช็กร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากจะได้เช็กสมดุลฮอร์โมน ระดับน้ำตาลในเลือด และสุขภาพของเพศหญิงแล้ว ยังช่วยคัดกรองและประเมินความเสี่ยงโรคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษากรณีตรวจพบโรคร้ายแรง โปรแกรมตรวจสุขภาพที่น่าสนใจ มีดังนี้
- ตรวจร่างกายทั่วไป (Physical Examination) ทั้งน้ำหนัก ส่วนสูง BMI และความดันโลหิต
- เอกซเรย์ทรวงอก (Chest X-ray)
- ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (FBS)
- ตรวจระดับไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล (Cholesterol)
- ตรวจระดับไขมันในเลือด ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride)
- ตรวจระดับไขมันในเลือดชนิดดี (HDL)
- ตรวจระดับไขมันในเลือดชนิดไม่ดี (LDL)
- ตรวจปัสสาวะ (Urinalysis)
- ตรวจภายในทุก 1 – 2 ปี
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 3-5 ปี
- ตรวจเต้านมโดยแพทย์ทุก 3 ปี
- ตรวจประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ
- ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบี
- ตรวจสมรรถภาพการทำงานของไต (Creatinine)
- ตรวจสมรรถภาพการทำงานของตับ (SGPT)
- ตรวจหาความเสี่ยงโรคเกาต์ (Uric Acid)
การตรวจสุขภาพนอกจากจะช่วยประเมินความเสี่ยงจากโรคต่าง ๆ แล้ว ยังช่วยให้เราทราบว่า สารเคมีในเลือดเป็นอย่างไร ค่าไขมันเกินหรือไม่ หรือร่างกายขาดวิตามินตัวไหนหรือเปล่า เพราะปกติแล้วร่างกายไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่ากำลังขาดวิตามินตัวใด
คุณผู้หญิงวัยทำงาน สามารถเลือกรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินได้ หากตรวจร่างกายแล้วพบว่าขาดวิตามิน เช่น วิตามินดี ช่วยเรื่องกระดูกและข้อ วิตามินบี 2 ช่วยเรื่องความแข็งแรงของเล็บและเส้นผม วิตามินเอ ช่วยเรื่องสายตา เป็นต้น โดยอาจปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้รับประทานได้อย่างปลอดภัยและไม่รับวิตามินมากเกินความจำเป็นของร่างกาย
ที่มา : thethaiger.com