9 ท่าออกกำลังกายที่บ้าน​ แบบไม่ต้องง้ออุปกรณ์

เมื่อต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านหรือ Work from home เป็นเวลานาน การขยับเคลื่อนไหวร่างกายก็ลดน้อยลง แถมจิตใจก็พลอยห่อเหี่ยวลงทุกวัน ถึงเวลาเรียกคืนความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระชับสัดส่วน และปรับอารมณ์ให้กลับมาสดใส กับ 9 ท่าออกกำลังกายเวทเทรนนิ่งแบบไม่มีอุปกรณ์ ที่คุณหมอพรีโมแคร์นำมาฝากในวันนี้ เพียงเลือกทำ 5-6 ท่าทุกวัน รับรองว่ากลับมารู้สึกฟิตแอนด์เฟิร์มกว่าเดิมได้แน่นอน

1 ท่ากระโดดกางแขนแตะพื้น

ท่าเริ่มต้นอุ่นเครื่องกล้ามเนื้อและเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ

  • กางแขนและขาสองข้างออกคล้ายรูปดาว ให้แขนเหยียดตรงขนานกับพื้น
  • ค่อยๆ เอียงตัวไปทางขวาจนมือขวาสัมผัสกับพื้น
  • เอียงตัวกลับมาในท่าเดิม และกระโดดให้ขาสองข้างมาชิดกัน
  • ทำสลับข้าง เอียงไปทางซ้ายจนมือซ้ายสัมผัสกับพื้น
  • เอียงตัวกลับมาและกระโดดขาสองข้างชิดกันอีกครั้ง
  • ทำซ้ำ 3 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง

2 ท่าเหยียดขาเหยียดแขน

ท่าบริหารที่ได้ขยับทั้งตัว ฝึกการทรงตัวและความมั่นคงของร่างกาย


  • อยู่ในท่าคลาน เข่าทั้งสองข้างแตะพื้นและอยู่ในระดับเดียวกับสะโพก มือ 2 ข้างอยู่ใต้หัวไหล่
  • คออยู่ในท่าธรรมชาติ ไม่ก้มหรือเงยเกินไป ค่อยๆ เหยียดแขนซ้ายไปข้างหน้า และเหยียดขาขวาไปข้างหลัง ให้ลำตัวและสะโพกตั้งฉากกับหัวเข่า
  • ทำค้างไว้ 2 วินาที
  • กลับไปท่าเดิม ทำสลับข้างกับแขนขวาและขาซ้าย
  • ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 20 ครั้ง

3 ท่าแพลงก์ไต่ภูเขา

เวทเทรนนิ่งโดยใช้น้ำหนักตัวและเข่า สร้างกล้ามเนื้อ ช่วยเพิ่มการเผาเผลาญ

  • อยู่ในท่าแพลงก์แขนเหยียดตรง
  • ยกเข่าขึ้นมาบริเวณหน้าอกจากนั้นยืดขากลับไปท่าเดิม
  • รีบยกเข่าซ้ายขึ้นมาบริเวณหน้าอกเช่นเดียวกับที่ทำกับข้างขวา
  • ทำซ้ำสลับซ้ายขวาเป็นเวลา 30 วินาทีทั้งหมด 3 เซต
  • ควรทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยคงไว้ซึ่งท่าที่ถูกต้อง

5 ท่ากระโดดข้าง

บริหารการเคลื่อนไหวของสะโพกและข้อเท้า

  • ยืนเท้าชิดกัน แขนงอ 90 องศา
  • กระโดดในท่าเท้าชิดกันไปทางขวาโดยปลายเท้าส่งตัวขึ้นและลงด้วยปลายเท้าเช่นกัน
  • จากนั้นกระโดดกลับไปทางซ้ายทันที
  • ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 20 ครั้ง

6 ท่าสควอทขึ้นลง

บริหารกล้ามเนื้อหลายส่วนพร้อมกันโดยใช้การตึงตัวของกล้ามเนื้อ

  • ทำท่าสควอทแล้วยกมือสองข้างขึ้นมาประสานกัน
  • ดันตัวขึ้นทีละน้อย โดยใช้แรงดันจากส้นเท้า และค่อยๆ ลดตัวลงในท่าเดิม
  • ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 30 วินาที

7 ท่ากระโดดสคอท

ฝึกความแข็งแรงในการหดและคลายตัวของกล้ามเนื้อในเวลาอันรวดเร็ว ท่านี้คนที่มีข้อต่อไม่แข็งแรงควรทำอย่างระมัดระวัง

  • ย่อตัวลงในท่าสควอทแล้วยกฝ่ามือสองข้างขึ้นมาประสานกัน
  • กระโดดตัวขึ้นแล้วย่อตัวกลับมาในท่าสควอทอีกครั้ง
  • ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 10-12 ครั้ง

8 ท่าปั่นจักรยาน

เพิ่มความแข็งแรงของลำตัว สะโพก เพิ่มการเผาผลาญไขมันบริเวณหน้าท้อง

  • นอนลงบนพื้น ยกเข่าสองข้างขึ้น งอศอกและวางมือไว้หลังศีรษะ
  • งอเข่าซ้ายเข้าหาหน้าอก และยกตัวขึ้นให้ข้อศอกข้างขวาแตะเข่าซ้าย ขาขวาเหยียดตรง
  • สลับข้าง งอขาขวาเข้าหาหน้าอก ยกตัวแตะข้อศอกซ้ายกับเข่าขวา ขาซ้ายเหยียดตรง
  • ทำทั้งหมด 3 เซต เซตละ 20 ครั้ง

9 ท่าดันพื้น

เน้นเพิ่มความแข็งแรงของลำตัวส่วนบน พร้อมกับความมั่นคงของลำตัวและขา

  • อยู่ในท่าแพลงก์ ลำตัวตรง ฝ่ามืออยู่ใต้หัวไหล่
  • ค่อยๆ ลดตัวลงด้วยการงอข้อศอกจนลำตัวเกือบติดพื้น ในขณะที่ยังคงลำตัวให้ตรงเหมือนเดิม
  • ยืดข้อศอกขึ้นเพื่อยกร่างกายขึ้นมาในท่าเริ่มต้น
  • ทำให้ได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่ไหว ทั้งหมด 3 เซต

ทำตามนี้ 5-6 ท่าต่อวัน หรือจะแบ่งทำทีละ 2-3 ท่าในแต่ละช่วงของวันไม่ให้หนักเกินไปก็ได้ เพียง 1-2 เดือนก็จะรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อและความแข็งแรงที่กลับคืนมาในไม่ช้า แถมการออกกำลังเป็นประจำยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดในสมองได้อีกด้วย

ไม่มีคำว่าสายเกินไปในการเริ่มต้นออกกำลังกาย และไม่ว่าใครก็ออกกำลังกายได้ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีอาการบาดเจ็บ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุด คุณสามารถปรึกษาแพทย์และนักกายภาพบำบัด เพื่อรับการประเมินเบื้องต้นก่อนเริ่มออกกำลังกาย ไปจนถึงการออกแบบการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับอายุและภาวะสุขภาพของตัวเองที่สุด

ที่มา: primocare.com

ติดตามเรา

spot_img

Related Articles